ร้านอาหารริมธาร บ้านเมี่ยง
บรรยากาศเยี่ยม
นอกจากมีร้านอาหารที่บรรยากาศที่ดีแล้ว เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ยังมีไร่กาแฟ
พร้อมรีสอร์ทเพื่อบริการที่พักให้กับนักท่องเที่ยวที่ชอบการพักผ่อน
แบบธรรมชาติอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากร้านขึ้นดอยไปประมาณ
5 กิโลเมตร ซึ่งต้องเดินเท้าขึ้นไปหรือใช้รถยนต์ชนิด 4x4 ซึ่งทางร้านได้เดรียมไว้กับนักท่องเที่ยว
ทางไปไร่กาแฟบ้านป่าเมี่ยง รีสอร์ท
ปัญหาของรีสอร์ทแห่งนี้ก็คือไม่มีไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
ถ้ามีนักท่องเที่ยวมาพักก็ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ โดยใช้น้ำมันดีเซลล์ทำให้ต้องเสียเงินกับน้ำมันชั่วโมงละ
400 บาท (บนดอยน้ำมันลิตรละ 40 บาท) ดังนั้นเจ้าของรีสอร์ทซึ่งเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติจึงมีแนวความคิดที่จะหาพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานงานทดแทน
จึงมีกาติดต่อกับเอ็นจินีโอ เพื่อหาแนวทางผลิตไฟฟจากพลังงานทดแทน
หลังจากทีมงานเอ็นจินีโอได้เดินทางเข้าไปสำรวจจึงลงความเห็นว่าควรนำร่องโดยใช้แผงโซล่าเซลล์เพื่อจะผลิตกำลังไฟฟ้าโดยเบื้องต้นใช้ระบบผลิตไฟฟ้า
800 VA ต่อวัน เพื่อใช้ำหรับไฟส่องสว่างที่จำเป็น และใช้ร่วมกับหลอดไฟฟ้าที่ประหยัดไฟสูงคือ
หลอด LED และหลอด ตะเกี่ยบ DC
ทีมงานเอ็นจินีโอพร้อมกับแผงโซล่าเซลล์พร้อมที่จะติดตั้ง
คนงานที่รีสอร์ทช่วยทางทีมงานเอ็นจินีโอติดตั้งโซล่าเซลล์
กำลังเชื่อมต่อระบบกับไฟเพื่อใช้ภายในบ้าน
บรรญากาศน่าอยู่มากๆ
หลังจากการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ทางทีมงานได้เห็นน้ำลำธารจากน้ำตกซึ่งมีความแรงพอสมควร
จึงมีแนวความคิดที่จะติดตั้งกังหันน้ำปั่นไฟ
ทีมงานกำลังเดินทางไปสำรวจต้นน้ำ
แต่เนื่องจากเราไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับวัดอัตตราการไหลของน้ำ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเลือก กังหันน้ำผลิตไฟฟ้า แต่เราโชคดีที่เรามีแกลลอนขนาด
5 ลิตรหนึ่งใบดังเราสามารถวัดอัตตราการไหลของน้ำได้โดย ตวงน้ำจากก๊อกน้ำแล้วทำการจับเวลา
ผลที่ได้ก็คือ น้ำจะเต็มแกลลอนใช้เวลา เพียง 11 วินาที นั้นหมายความว่าหนึ่งนาที่
จะมีการไหล 0.45 ลิตร โดยที่น้ำไหลผ่านหน้าตัุดกลมขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด
4/8 นิ้วเท่านั้น เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะทำการเลือกกังหันน้ำปั่นไฟที่จะใช้งานได้แล้ว
นอกจากนั้นเรายังเดินสำรวจแหล่งน้ำบริเวณไกล้เพื่อกลับมาวางแผนติดตั้ง
กันต่อไป โดยจะกลับไปติดตั้งกังหันน้ำ ในวันจันทร์ที่ 15 ตค.
2550 อย่าลืมติดตามภาระกิจของเรานะครับ